บาร์บี้ เจ้าหญิงราพันเซล (Barbie as Rapunzel) เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของบาร์บี้ กำกับโดย โอเว่น ฮัคเล่ย์ ซึ่งดัดแปลงมาจากเทพนิยายเยอรมัน เรื่อง ราพันเซล ซึ่งประพันธ์โดย พี่น้องตระกูลกริมม์
เสียงพากษ์ตัวละคร[]
- บาร์บี้/ราพันเซล ให้เสียงโดยปานวาด อภิโช
- เคลลี่/คาทริน่า ให้เสียงโดย บิสมิลลา นานา
- เพโนโลปี้ ให้เสียงโดย สุพิชฌา ณ ถลาง
- โฮบี้ ให้เสียงโดย บุญชนะ โชควิชาโกศล
- โกเธล ให้เสียงโดย โศภิตา รังสิโยทัย
- อ๊อตโต้ ให้เสียงโดย สุภาพ ไชยวิสุทธิกุล
- สเตฟาน ให้เสียงโดย ทรงพล อักษรดี
- ฮิวโก้/ช่างทำเครื่องเงิน ให้เสียงโดย เอกชัย พงศ์สมัย
- ราชาเฟรดเดอริค ให้เสียงโดย เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง
- ราชาวิลเฮล์ม ให้เสียงโดย พิสิต กลิ่นสุวรรณ
- นักรบผอม ให้เสียงโดย สรรเสริญ โชคสมบัติ
- นักรบอ้วน ให้เสียงโดย โฆษิต กฤษตินันท์
- คนทำขนมปัง/ยาม ให้เสียงโดย มิ่งขวัญ เจียประเสริฐ
- เมโลดี้ ให้เสียงโดย นพวรรณ เหมะบุตร
- โลรีน่า ให้เสียงโดย มาลิต้า ซีลลิ่ง
- ทอมมี่ ให้เสียงโดย บัญชา สง่างาม
เรื่องราว[]
เนื้อเรื่องย่อ[]
นานมาแล้วสมัยแห่งมนต์วิเศษและมังกรไฟ มีหญิงสาวแสนสวย นามราพันเซล ผู้มีเส้นผมเงางามเปล่งรัศมีเจิดจ้าซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แต่ชีวิตของเธอช่างน่าสงสาร เธออาศัยเป็นทาสรับใช้ของ "โกเธล" นางแม่มดเจ้าเล่ห์ ขี้อิจฉา ที่ขังเธอบนหอคอยในป่าลึก คุ้มกันโดยเจ้ามังกรยักษ์ "ฮูโก้" และล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ววิเศษแต่แล้ว โชคชะตาพลิกผันให้ราพันเซลค้นพบพู่กันวิเศษ ซึ่งพาเธอไปสู่การเดินทางที่ซับซ้อน ลวงตา นำไปสู่ความสงบสุขของสองอาณาจักร และนำให้เธอพบรักกับเจ้าชายหนุ่มรูปงาม "สเตฟาน" และได้รับความช่วยเหลือจากมังกรใจดี "เพเนโลปี้
เรื่องราว[]
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อเคลลี่ไม่มีความมั่นใจในในการวาดรูป บาร์บี้ จึงเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อยน้อยที่ชื่อ ราพันเซล ให้กับเคลลี่ฟัง เรื่องราวเริ่มที่ ราพันเซล วาดภาพทิวทัศน์ของชายฝั่งทะเล ที่เธอหวังว่าเธอจะได้ไปในที่ที่เธอวาดซักวันหนึ่ง โฮบี้กระต่ายน้อย ได้ยินเสียงของ โกเธล กำลังมาที่นี่ ราพันเซลกำลังเก็บของทั้งหมดเพื่อไม่ให้เธอรู้ว่าราพันเซลวาดรูป ราพันเซลเตรียมต้อนรับโกเธล หลังจากที่เธอกลับมาจากขี่ม้า โกเธลเห็นสีเปื้อนที่แก้มของราพันเซล และต่อว่าเธอว่า ชอบเอาเวลางานไปวาดรูป ในขณะที่ราพันเซลเตรียมชาให้โกเธลอยู่ เพเนโลปี้ ได้บังเอิญพบบันไดไปสู่ชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ เมื่อพวกเขาลงไปได้พบ แปรงเงินหวีผม ของขวัญที่พ่อแม่เธอทิ้งไว้ให้และได้สลักตัวอักษรไว้ว่า “ฟ้าพร่างพราวประกายแสงดาว ใสสะกาวมอบรักนิรันดร์ แด่ลูกสาวของเรา ราพันเซล ในวันเกิดปีแรก ด้วยรักชั่วนิรันดร์ ท่านพ่อและท่านแม่ ” ซึ่งถูกทำขึ้นโดยช่างเงิน แต่ถูกขัดจังหวะโดย โกเธล เรียกให้เธอเอาชาขึ้นไปให้ หลังจากที่เธอเอาชาไปให้ โกเธล เธอได้กลับไปยังห้องใต้ดินอีกครั้ง โฮบี้ หลอก เพเนโลบี้ ว่ามีแมงมุมอยู่ใต้เท้าของเธอ เพเนโลปี้ กระโดดจนพื้นเป็นรูกว้าง แต่แล้วด้านล่างพื้นมันคืออุโมงค์ ราพันเซลจึงเดินทางไปตามทางเรื่อยๆ จนพบอาณาจักรหนึ่ง เธอชมบรรยากาศของหมู่บ้านจากนั้นเธอเลยเข้าไปในวัง ราพันเซลเห็นเจ้าหญิงคาทริน่าตกเข้าไปในหลุมกับดัก เธอเลยเข้าไปช่วยแต่ราพันเซลช่วยไม่ไหวเธอเกือบจะตกลงไปแต่เจ้าชายรูปงาม นามว่า เจ้าชายสเตฟาน เขาบอกว่าหลุมกับดักนี้สร้างโดย ราชาวิลเฮล์ม ซึ่งทั้งสองอาณาจักรไม่ถูกกัน สเตฟานจะแนะนำชื่อของเขาให้เธอฟัง แต่ราพันเซล ขัดไว้ก่อนเพราะกลัวว่าเจ้าชายสเตฟานจะถูกพบโดยโกเธล จากนั้นเสียงนาฬิกาก็ดังขึ้นได้เวลายามเย็น ราพันเซลจึงรีบกลับไปทันที แต่ว่าอ็อตโต้ได้แอบตามราพันเซลมาด้วย แล้วจึงไปรายงานกับโกเธล โกเธล โกรธมากเธอต้องการให้บอกชื่อคนที่เธอพบด้วย แต่ราพันเซลบอกว่าเธอไม่รู้ แต่โกเธลคิดว่าราพันเซลโกหก ราพันเซลจึงบอกว่าโกเธลไม่สามารถขังเธอจากโลกภายนอกได้ โกเธลจึงร่ายเวทมนตร์ทำให้ห้องที่ราพันเซลอยู่กลายเป็นหอคอยที่ไม่มีทางออก มีเพียงหน้าต่างหนึ่งบาน และเธอก็ได้ทำลายภาพวาดของราพันเซลอีกด้วย คืนนั้นราพันเซลฝันถึงเจ้าชายสเตฟานมาพบเธอที่หอคอยและปีนผมของเธอขึ้นมาหาราพันเซล ทั้งสองกำลังจะจูบกันแต่อยู่ดีๆโกเธลก็โผล่มาและแยกพวกเขาออกจากกัน แล้วเธอก็ตื่นขึ้นแล้วอ่านคำสลักบนแปรงหวีผมและเธอยังตระหนักว่าเธอยังมีหวัง แล้วเธอก็กลับไปนอนต่อ แปรงหวีผมส่องแสงจากนั้นก็กลายเป็นพู่กัน
เมื่อโกเธลเข้าไปในเมืองเธอได้เห็นราชาวิลเฮล์มมาทำลายอาณาจักรของราชาเฟรดเดอริค เธอเพลินเพลินกับการที่ได้เห็นสองอาณาจักรทำลายกัน ราพันเซลอยู่กับโฮบี้และเพเนโลปี้พวกเขาเอาสีที่ทำจากเบอรี่มาให้ราพันเซลวาดภาพ แต่ราพันเซลไม่มีพู่กันโฮบี้จริงเห็นพู่กันแต่โฮบี้บอกว่านี่มันเคยเป็นหวีมาก่อน เมื่อราพันเซลวาดภาพบนผนังห้อง ภาพได้เกิดตามที่เธอคิดโดยเธอไม่ต้องใช้สี แล้วเธอก็เข้าไปในภาพวาดแล้วได้เจอเจ้าชายสเตฟาน เขาบอกว่าต้องการความช่วยเหลือโดยเธออยากจะรู้ว่าใครทำพู่กันนี้เจ้าชายจึงพานางมาหาช่างเงิน แต่เขาบอกว่าพี่ชายของเขาทำโดยอยู่ในอีกอาณาจักรหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นสฟานก็ส่งใบเชิญให้มางานเลี้ยงสวมหน้ากาก แต่เพเนโลปี้มาเรียกให้ราพันเซลกลับไปเพราะโกเธลกลับมาแล้ว ราพันเซลจึงบอกสเตฟานว่าจะมางานเลี้ยงในคืนนี้
เมื่อกลับมาที่หอคอยราพันเซลได้ใช้พู่กันวาดชุดที่สวยงาม และเพเนโลปี้ก็ทำหน้ากากมาให้เธอ แต่น่าเสียดายที่แสงในการวาดรูปมันจ้าออกไปจากห้องราพันเซลอ็อตโต้จึงแอบเข้าไปในห้องราพันเซลแล้วแอบหยิบใบเชิญไปงานเลี้ยงมาแล้วจึงนำไปให้โกเธลดู เมื่อโกเธลมาที่ห้องราพันเซลนางได้ทำลายภาพวาดที่จะไปยังงานเลี้ยงและทำลายพู่กันวิเศษ เธอจึงตัดผมของราพันเซลและปลอมตัวเป็นราพันเซลเพื่อที่จะหาว่าใครคบกับราพันเซล
สเตฟานถูกหลอกให้ไปในเขาวงกตที่ซึ่งโกเธลเปิดเผยร่างจริงเมื่อสเตฟานหนีเข้าไปในปราสาท ขณะนั้นราชาวิลเฮล์มก็แอบเข้ามาโจมตีอาณาจักรราชาเฟรดเดอริค แต่เมื่อราพันเซลมาเห็นนางจึงถามว่าทำไมสองอาณาจักรจึงสู้กันแล้วนางก็บอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะนาง นางขโมยราพันเซลไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็กเพราะราชาวิลเฮล์มไม่รักนาง แต่ราพันเซลออกมาจากหอคอยได้เนื่องจากหอคอยขังได้เฉพาะคนโกหกแต่ราพันเซลไม่ได้โกหก นางจึงเริ่มสู้จากราพันเซลนางจำได้ว่านางเคยวาดภาพวาดหอคอยที่จะเชื่อมไปยังหอคอยของเธอได้ แล้วราพันเซลก็เอาตัวโกเธลเข้าไปในภาพวาดแล้วโกเธลก็ออกมาไม่ได้อีกเลย หลังจากนั้นราพันเซลก็ได้แต่งงานกับสเตฟานและนางก็ได้ไปอยู่สถานที่นางใฝ่ฝัน
เมื่อบาร์บี้เล่าเรื่องราวจบเคลลี่จึงมีความมั่นในในการวาดภาพและเธอจะวาดในสิ่งที่เธอฝัน
เพลง[]
- "Rapunzel Theme" ร้องโดย Becky Taylor
- "Constant As The Stars Above" ร้องโดย Jessica Brown เวอร์ชั่นภาษาไทย ร้องโดย ปานวาด อภิโช
- "Wish Upon A Star" ร้องโดย Samantha Mumba